8 แผ่นจบ
เสียง ไทย
นักแสดง ภัทรพล กันตพจน์ รับบทเป็น ปราบ พรภัสสร อัตถปัญญาพล รับบทเป็น สายรุ้ง เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ รับบทเป็น จ่าโย่ง รณวีร์ เสรีรัตน์ รับบทเป็น บาน พชรพล จั่นเที่ยง รับบทเป็น เลี้ยง ชาราฎา อิมราพร รับบทเป็น หนูยิ้ม แมทธิว ดีน รับบทเป็น สิชล เวนซ์ ฟอลโคเนอร์ รับบทเป็น ผบ.สุชาติ นาท ภูวนัย รับบทเป็น นายพลสุริยา ซีแนม สุนทร รับบทเป็น อรนารี ศตวรรษ ดุลยวิจิตร รับบทเป็น ปราโมท สุชาดา พูนพัฒนสุข รับบทเป็น รังรอง นึกคิด บุญทอง รับบทเป็น เสี่ยอ๋า ธนายง ว่องตระกูล รับบทเป็น ปอดำ อัญชิสา เลี่ยวไพโรจน์ รับบทเป็น ตองตึง ภูดิศ สุริยวงศ์ รับบทเป็น เผือก ด.ช.ธีรภัทร รัตนาสกุล รับบทเป็น หูหนู ถนอม นวลอนันต์ รับบทเป็น หัวหน้าหมู่บ้าน กองทัพต้องเดินด้วยท้อง วลีอมตะที่ นโปเลียน กล่าวเอาไว้ อาวุธ และ อาหาร คือสิ่งที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน หน่วยประกอบเลี้ยง อีกหนึ่งหน่วยงานที่ดูแลทหารหาญเรื่องปากท้อง แต่ถ้าพวกพ้อง น้องพี่ มีปัญหา ก็ถึงเวลาที่กองร้อยกระทะเหล็กต้องออกโรงกันบ้าง แม้ไม่เชี่ยวชาญเรื่องอาวุธ แต่คล่องแคล่วที่สุดกับอาหาร แม้การออกรบไม่ชำนาญ เรื่อง กระทะ จาน ชาม คุ้นเคยดี ทั้ง 4 หนุ่ม จะเอาชีวิตรอดกลับมาได้หรือไม่ ภารกิจอันเลวร้ายจะผ่านพ้นไปได้อย่างไร ส่งแรงใจให้พวกเขา...กับทีม....กองร้อย...กระทะเหล็ก ณ กองร้อยที่ 88 ในช่วงเวลาใกล้เที่ยง บรรยากาศใน หน่วยประกอบเลี้ยง ดูคึกคักวุ่นวายพลสูทกรรม 5 นาย กำลังวุ่นกับการเตรียมเสบียงอาหารสำหรับมื้อเที่ยง ปราบ กำลังถกเถียงกับ จ่าโย่ง ผู้บังคับหน่วยหัวอนุรักษ์เรื่องขั้นตอนของการทำอาหาร โดยมี หนูยิ้ม ลูกสาวจ่าโย่งแอบเชียร์ปราบอยู่ในใจ ปีนี้หนูยิ้มเรียนจบแล้ว กำลังรอเรียกสัมภาษณ์งาน แต่ถึงยังไงจ่าโย่งก็ยังคงเป็นห่วงและหวงหนูยิ้มอยู่ดี และมักจะหนีบลูกสาวติดไปด้วยทุกที่ แม้แต่เวลาออกปฏิบัติงาน หนูยิ้มเลยกลายเป็นลูกมือของพ่อไปโดยปริยาย ครั้นหนูยิ้มจะสมัครเป็นทหารรับราชการให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย พ่อก็ไม่เห็นด้วย อีกด้านหนึ่ง พลทหารบาน กำลังสับหมู หั่นผัก อย่างเมามันถึงขั้นเขียงแตก เพราะความบ้าพลัง ส่วน หมู่เลี้ยง กำลังละเมียดละไมกับการเด็ดพืชผักสมุนไพร และดมกลิ่นของมันไปด้วย ทำให้หนูยิ้มหงุดหงิดใจมากๆ กับความเชื่องช้าของเลี้ยง เพราะหนูยิ้มเป็นผู้หญิงที่คล่องแคล่วว่องไว กว่าอาหารจะเสร็จ ปราบกับจ่าโย่งต้องได้เถียงกันไปหลายยก เรื่องราวของหน่วยประกอบเลี้ยงแห่งนี้เป็นอยู่อย่างนี้ทุกเมื่อเชื่อวัน วันนี้เป็นเวรปราบที่จะต้องนำอาหารไปเสิร์ฟให้ทหารในห้องรับ-ส่งวิทยุสื่อ สาร แล้วปราบก็ต้องแปลกใจเมื่อไม่พบใครในห้องนั้น ขณะที่ปราบกำลังจะหันหลังออกจากห้อง ก็บังเอิญได้ยินเสียงดังลอดออกมาจากวิทยุใจความสำคัญคือ ทหารฝ่ายตรงข้ามได้จับทหารฝ่ายเราไว้เป็นตัวประกัน ทุกคนอยู่ในอันตราย ปราบไม่รอช้า รีบจดพิกัดไว้ แล้วเสียงผู้แจ้งก็หายไปพร้อมเสียงปืนรัวกระหน่ำ ความเป็น ความตาย เท่ากัน ปราบถือกระดาษที่จดพิกัดไว้ในมือ วิ่งออกไปหมายจะแจ้งให้ทุกคนทราบ แต่แล้วก็พบว่าเพื่อนทหารได้หายไปหมด เหลือแต่เพื่อนๆ พลสูทกรรม ซึ่งยืนรอเก้ออยู่ที่โรงประกอบเลี้ยง ปราบรีบเล่าเรื่องที่ได้ยินให้เพื่อนๆ ฟัง ทุกคนตกใจมาก ปราบออกความเห็นว่า นี่เป็นโอกาสที่จะได้แสดงฝีมือให้ทุกคนเห็นว่าหน่วยของเราก็มีฝีมือเชิงรบ เหมือนกัน ไม่ได้ หน่อมแน้ม ปวกเปียก อย่างที่โดนล้อเลียน ทุกคนเห็นด้วย โดยเฉพาะหนูยิ้มซึ่งรอมานานที่จะได้แสดงความสามารถเฉพาะตัวที่คล่องแคล่ว ว่องไวและเก่งในเชิงมวยและการต่อสู้ ส่วนบาน หนูยิ้มว่าไงบานว่างั้น บานมีสมองก็เหมือนไม่มีแต่พละกำลังเหลือเฟือ แม้จ่าโย่งจะค้านแต่ก็ไม่มีใครฟัง 4 หนุ่มสาวออกค้นหาอาวุธแต่ก็ไม่พบ จึงนำข้าวของที่ใช้ในครัวเท่าที่จะหาได้ติดตัวไป ปราบพกที่จุดเตาแก๊ส กับขวดน้ำมันไป หนูยิ้มมือผัดเอากระทะกับตะหลิวติดตัวไป บานได้อีโต้ 2 อัน ส่วนเลี้ยงได้ขวดพริกไทยกับพริกป่นไป จ่าโย่งไม่รู้จะเครียดหรือจะขำกับภาพที่เห็น พยายามโน้มน้าวให้ทุกคนล้มเลิกความตั้งใจ แต่ไม่มีใครฟัง จ่าโย่งยื่นคำขาดไม่ให้หนูยิ้มไป แต่หนูยิ้มไม่ยอม ด้วยความที่อยากจะเอาใจหนูยิ้ม บานจึงฟาดหัวจ่าโย่งจนสลบไป ท่ามกลางความตกใจของทุกคน แต่ภารกิจก็ไม่อาจล้มเลิก ทุกคนมุ่งหน้าไปสู่พิกัดที่ได้รับแจ้งหมายจะให้ได้มาซึ่งคำว่า ฮีโร่ ทั้ง 4 บุกมาถึงพิกัดข้าศึกได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายอย่างไม่น่าเชื่อ เบื้องหน้าเป็นข้าศึกที่อยู่ในชุดดำ ปกปิดหน้าตา ไม่ระบุสัญชาติ และทหารฝ่ายเราที่ตกเป็นเชลย หนึ่งในนั้นเป็นแพทย์ทหารนาม สายรุ้ง คุณหมอคนสวยลูกสาวนายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่เลี้ยงหลงรัก แทบไม่น่าเชื่อใช้เวลาและเรี่ยวแรงไม่มาก ทั้ง 4 คน ก็สามารถใช้ตะหลิว มีด และ ไฟจัดการข้าศึกได้ไม่ยาก ท่ามกลางความตกใจระคนฉงนสนเท่ห์ของข้าศึก ทั้ง 4 เข้าประชิดตัวหัวหน้าข้าศึกจนจะสามารถช่วยสายรุ้งได้ หัวหน้าศัตรูซึ่งใช้ผ้าปิดหน้าปิดตาได้เข้ามาขวาง ทำให้มีการประมือกับปราบ ปราบอาศัยทีเผลอเล่นงานศัตรูด้วยไฟ แล้วแย่งปืนยิงใส่ศัตรูทันที หยุดเดี๋ยวนี้..!! เสียงตวาดอันแสนจะคุ้นเคยแผดขึ้นจนทุกคนตกใจ และ หยุดชะงัก ผบ. สุชาตินั่นเอง ผบ. เดินหน้าเครียดเข้ามาพร้อมกับเหล่าทหารและศัตรูที่ต่างถอดผ้าปิดหน้าออก ทั้ง 4 ตกตะลึงเมื่อพบว่าทหารศัตรูเหล่านั้น คือเพื่อนๆ ทหารของเขานั่นเอง มาทำบ้าอะไรกันเนี่ย เค้าซ้อมรบกันอยู่โว้ย..!! สิ้นสุดเสียงตวาดของ ผบ. สุชาติ ก็ตามมาด้วยเสียงหัวเราะเยาะโห่ฮาของบรรดาเพื่อนทหาร คนที่ตกใจที่สุดคือปราบ เขารีบหันไปดูหัวหน้าศัตรูที่ถูกเขายิงว่าเป็นอย่างไรบ้าง สิชล ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ ผบ. สุชาติ พยายามยันตัวลุกขึ้น ปราบรีบเข้าไปช่วย แต่สิชลโมโหจัดผลักปราบกระเด็น สายรุ้งเข้ามาดูอาการสิชล ซึ่งมีแค่แผลฟกช้ำ เพราะได้เสื้อเกราะช่วยชีวิตเอาไว้ ปราบโล่งใจ สายรุ้งอดขำปราบและเพื่อนๆ ไม่ได้จึงหลุดหัวเราะออกมา ทำให้ปราบรู้สึกอาย และ หมั่นไส้สายรุ้งมาก สิชลนั้นออกจะเสียหน้าอย่างมาก ที่พลาดท่าให้ปราบซึ่งเป็นนายทหารพลสูทกรรม จนกลายเป็นความอาฆาต จะมีดีบ้างก็ตรงที่เขาได้รับความเอาใจใส่จากคุณหมอสายรุ้งคนสวย