1 แผ่นจบ ซับไทย
Achilles and the Tortoise พูดถึงตัวเองในฐานะจิตรกรตกอับหนังเล่าด้วยมุกตลกน่ารักๆ
Machisu เป็นเด็กชายที่เติบโตในครอบครัวที่มีฐานะ พ่อเป็นคนชอบสะสมภาพวาด มาชิสุมุ่งมั่นจะเป็นนักวาดภาพหลังจากที่เพื่อนของพ่อชมว่าเขาเขียนได้ดี ทำให้เด็กชายมาชิสุอุทิศเวลทั้งหมดให้ศิลปะ เขาวาดภาพมันทุกที่ทุกเวลา แต่หลังจากที่ประสบเคราะห์กรรมในชีวิต มาชิสุกลายเป็นเด็กกำพร้า ในวัยหนุ่มเขาต้องทำงานหนักในโรงพิมพ์เพื่อยังชีพ จนได้มาพบกับเสมียนสาวที่ทำให้เขากลับมามุ่งมันกับการวาดภาพ แม้ตัวเองจะไร้ซึ่งแววและพรสวรรค์ก็ตาม แต่ชีวิตจริงไม่ง่ายอย่างที่ฝัน เขาต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อพิสูจน์ความเป็นศิลปินให้คนยอมรับ แม้จะโดนดูถูกจากคนรอบข้าง โดยเฉพาะลูกสาว แต่เขาก็ยังมีภรรยาที่ทนทุกข์ร่วมกันมาตลอดคอยสนับสนุนอยู่ข้างๆ และพาเขาผจญภัยในโลกของศิลปะ ใน เรื่องนี้ชีวิตของ Machisu เป็นเหมือนผลข้างเคียงของศิลปะ ตัวคิตาโน่เองซึ่งเคยคิดจะเขียนภาพเหมือนกัน แต่ก็ต้องเลิกไปเพราะฝีมือไม่เอาไหน บอกว่า "ศิลปะเป็นเหมือนยาที่ใช้บำบัดศิลปิน แต่ไม่แน่ใจว่าจะเกิดผลกับศิลปินทุกคนหรือเปล่าสิ" คิตาโน่ต้องการสื่อสารกับผู้ชมว่า คนที่ไม่มีพรสววค์หรือความสามารถพิเศษใดๆ ก็คู่ควรที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อสู้ความจริง มันเป็นเรื่องของความทุกข์ทรมานในชีวิตการเป็นศิลปิน "ไม่จำเป็นที่ศิลปินจะต้องตาย หรือต้องเสียสละชีวิตครอบครัวของเขาหรอก" คิตาโน่พูดในงานแถลงหนัง เรื่องนี้เปิดกล้องไปเมื่อ 10 กุมภาพันธ์ปีนี้ และปิดกล้องในช่วงกลางเดือนเมษายน ก่อนจะพร้อมเข้าประกวดในเวทีเวนิซปีนี้ ซึ่งเป็นที่ที่เขาเคยคว้ารางวัลมาแล้วจาก Hanabi ในปี 1997 บทหนังของเรื่องนี้ยังคงเขียนโดยคิตาโน่เอง ซึ่งก็ได้แรงบันดาลใจจากฝีมือวาดภาพที่ไม่ได้เรื่องของตัวเอง เขาบอกว่า "ผมคิดว่าแล้วทำไมไม่เอามาใช้ในหนังเสียล่ะ" คิตาโน่ยังได้วิพากษ์วิจารณ์ถึง ภาพยนตร์จำนวนมากในญี่ปุ่น ที่มักจะสร้างจากนิยาย หรือไม่ก็ซีรี่ส์ทางทีวีที่ได้รับความนิยมมาก่อนว่า "ขาดความคิดสร้างสรรค์" เขาย้ำว่า "ภาพยนตร์ควรจะสร้างจากบทภาพยนตร์ที่เขียนขึ้นสำหรับหนังโดยตรง" และหลังจากหมดโปรเจ็กท์ไตรภาคชีวิตศิลปิน อันเป็นหนังส่วนตัวของคิตาโน่ในเรื่องนี้แล้ว ทางโปรดิ้วเซอร์ของหนัง Masayuki Mori บอกว่า "หนังไตรภาพเป็นเรื่องราวส่วนตัวของผู้กำกับเอง เมื่อจบจากไตรภาคนี้แล้วก็หมายถึงจุดเริ่มของอิสระใหม่ๆ"