3 แผ่น
พากย์ ไทย สวีดิช
��ตอนที่ 1 .MEN WHO HATE WOMEN รอยสักฝังแค้นหญิงสาวกร้านโลกที่ร่างกายเต็มไปด้วยรอยสัก ชื่อ ลิเบธ(นูมิ ราเพซ) ซึ่งหาเลี้ยงตัวเองด้วยการเป็นนักล้วงข้อมูล เธอได้จับพลัดจับผลูไปรู้จักกับมิคาเอล(ไมเคิล นีควิสต์) นักข่าวหัวเห็ดที่ถูกว่าจ้างให้เสาะหาเบาะแสการหายตัวไปของทายาทมหาเศรษฐี ทั้งลิสเบธและมิคาเอล มาร่วมหัวจมท้ายใน การสืบปริศนาอันยอกย้อนที่เต็มไปด้วยเบื้องหลังของความเกลียดชัง น่าสะพรึงกลัว มองผ่านๆ แล้ว The Girl with the Dragon Tattoo ก็ใช้สูตรการดำเนินเรื่องแบบหนังตามหา ฆาตกรทั่วๆ ไป แต่ทีเด็ดสำคัญอยู่ที่รายละเอียดในการเชื่อมโยงเบาะแส ที่คล้ายกับการจับความรู้สึกคนดูมาเขย่าจนกระเจิดกระเจิงตอนที่ 2. The Girl Who Played with Fire การกดขี่ทางเพศ ธุรกิจผิดกฏหมาย อำนาจมืดในแวดวงราชการ และการแบล็กเมล์ที่ซับซ้อนสุดคาดเดาลิสเบธ นางเอกนัยน์ตาดุของเรายังคงไม่สามารถลืมอดีตในวัยเด็กที่หลอกหลอนตัวเองได้ เธอพยายามหนีไปตั้งหลักชีวิตใหม่ในที่ๆ ไม่มีใครรู้จัก แต่แล้ว เธอกลับโดนใส่ร้ายว่าเป็นผู้ลงมือฆ่านักข่าวคนหนึ่ง สิ่งที่ลิสเบธต้องทำมีอยู่สองอย่างคือ เคลียร์ตัวเองให้พ้นจากความผิด และเอาคืนคนที่สาดความผิดใส่เธออย่างสาสม เช่นเคย เธอได้รับความช่วยเหลือจากมิคาเอล นักข่าวหนุ่มใหญ่ที่ตอนนี้เปิดหนังสือพิมพ์เป็นของตนเองในชื่อ มิลเลนเนียมฉบับ นิยายนั้นภาค 2 ของ Millennium เป็นเล่มที่ขายดีที่สุด และฉบับแปลภาษาอังกฤษนั้นขึ้นอันดับ 1 ในประเทศอังกฤษอยู่หลายสัปดาห์ทีเดียว แน่นอนว่าจุดเด่นเรื่องความระทึกขวัญอันดิบเถื่อนนั้นยังครบเครื่องเต็ม เปี่ยม แต่ที่เด็ดกว่าก็คือ การผูกปมทางจิตใจของตัวละครและปมของโครงเรื่องได้อย่างแนบเนียนชวนติดตามตอนที่ 3. The Girl Who Kicked the Hornet’s Nestหลังจากจบภาค 2 ในลักษณะเดียวกับการปล่อยคนดูค้างไว้บนหน้าผา ลิสเบธ นางเอกของเราได้พบกับพ่อบังเกิดเกล้าของเธอ (และกลายเป็นความหายนะสุดขีดคลั่ง) จนเธอต้องไปนอนพักฟื้นร่างกายในโรงพยาบาลบทสรุปของหนัง ก็จะค่อยๆ ทำการเปิดเผยปมทุกอย่างที่ผูกกันมาตั้งแต่ภาคแรกอย่างลุ้นระทึกค่อยเป็นค่อย ไป และที่น่าตกใจมากก็คือ ปูมหลังของลิสเบธนั้น มีความลับซุกซ่อนอยู่มากมายกว่าที่คิดไว้มากจากหนังฆาตกรรม สู่หนังอาชญากรรม และมาเป็นหนังที่วิพากษ์วิจารณ์การใช้อำนาจคุกคามทางเพศได้อย่างแยบยล โดยไม่ได้ละทิ้งบรรยากาศดำมืด และความดิบเถื่อนอันเป็นเอกลักษณ์มาตั้งแต่ภาคแรก จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า เหตุใดหนังทั้ง 3 ภาคจึงกวาดรายได้ไปอย่างงดงาม และในไม่ช้านี้ หนังก็จะถูกดัดแปลงเป็นเวอร์ชั่นฮอลลีวู้ดเรียบร้อยแล้ว