เสียง ไทย อังกฤษซับ ไทย อังกฤษ
เรื่องราวใน 1 ชั่วโมงแรกของ Surveillance ค่อนข้างซับซ้อนยุ่งยากพอสมควร คนดูได้รับการบอกกล่าวถึงเหตุการณ์สยองขวัญในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งเกี่ยวกับฆาตกรโรคจิต 2 คนที่คลุมไอ้ โม่งแล้วออกสังหารคนบริสุทธิ์อย่างโหดเหี้ยมทารุณ จากนั้นไม่นานเอฟบีไอชายหนึ่งหญิงหนึ่ง (บิล พูลแมน และ จูเลีย ออร์มอนด์) ก็ได้รับมอบหมายให้มาสอบสวนพยานปากสำคัญ 3 คน อันประกอบไปด้วย ตำรวจเลว (เคนต์ ฮาร์เปอร์), หญิงติดยา (เพลล์ เจมส์) และสาวน้อยวัย 10 ขวบ (ไรอัน ซิมพ์กินส์) ซึ่งรอดชีวิตจากเงื้อมมือของฆาตกรมาได้ กรรมวิธีการสอบปากคำออกจะพิลึกพิลั่นอยู่เหมือนกัน พยานทั้งสามถูกแยกไปนั่งคนละห้อง โดยแต่ละห้องจะมีกล้องวงจรปิดติดอยู่ และเอฟบีไอจะเป็นคนนั่งสังเกตการณ์จากจอภาพ พร้อมๆ กับที่หนังจะตัดสลับแฟลชแบ็คเหตุการณ์ที่พยานเล่ามาเป็นระยะๆ ปัญหาก็คือ คำพูดของพยานที่นอกจากจะไม่ตรงกัน มันยังไม่ตรงกับภาพที่หนังเผยให้คนดูได้เห็นสักเท่าไหร่ บางช่วงบางตอนมันแตกต่างราวกับเป็นหนังคนละม้วน ยิ่งตอกย้ำถึงการโป้ปดมดเท็จของตัวละคร ผู้กำกับภาพ ปีเตอร์ วุนสทอร์ฟ จงใจให้ภาพหยาบและแห้งแล้ง สีดูจัดๆ แต่ไม่ได้สบายสายตา โลเกชั่นทั้งหมดปักหลักถ่ายทำกันที่รัฐซัสแคตเชวัน ประเทศแคนาดา ภูมิประเทศดูเวิ้งว้างจนชวนขนหัวลุก บ่อยครั้งที่กล้องแพนออกไปเห็นขอบฟ้าไกลลิบลับ โดยไม่ปรากฏสิ่งมีชีวิตแม้แต่ชนิดเดียว บทพูด อากัปกิริยาของตัวละคร เป็นเดวิด ลินช์ทั้งหมด กล่าวคือ มันเต็มไปด้วยความโสโครก กักขฬะ และแรงกระเพื่อมบางอย่างภายใต้พื้นผิวที่ดูงดงาม - กำลังรอวันปะทุออกมา แต่เจนนิเฟอร์ แชมเบอร์ส ลินช์ ไม่เหมือนพ่ออยู่อย่างเดียวตรงที่ เธอไม่ได้พยายามทำหนังที่ดี เพราะฉะนั้น Surveillance จึงคล้ายเป็นหนังสยองขวัญที่ไร้รสนิยม หักมุมอย่างสุดๆ ไร้เหตุผลที่มาที่ไป แต่ถึงอย่างนั้น มันเป็นหนังที่ดูสนุก อบอวลด้วยบรรยากาศแปลกๆ แบบที่ใครก็ทำออกมาไม่ได้